Free Hosting

วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2563

ขั้นที่4: การเพิ่ม navigation bar

รายชื่อในส่วนบนของหน้า HTML ตั้งใจจะใช้เป็นเมนู navigation เวบไซด์หลายเวบมีการใช้เมนูวางเรียงไว้ด้านบนหรือไว้ด้านข้างของ หน้าและหน้านี้ก็ควรมีเช่นกันซึ่งเราจะวางไว้ด้านซ้ายเนื่องจากดูแล้วน่าแล้วน่าสนใจกว่าวางไว้ด้านบน
เมนูดังกล่าวนี้มีอยู่ในหน้า HTML แล้วโดยใช้ <ul>แสดงรายการไว้ด้านบนลิงค์ยังไม่สามารถใช้ได้เนื่องเวบไซด์ของเราในขณะนี้มี เพียงหน้าเดียวแต่ในขณะนี้เรื่องนั้นไม่สำคัญ แต่แน่นอนว่าสำหรับเวบไซด์จริงๆแล้วไม่ควรจะมีลิงค์ที่ใช้งานไม่ได้

ดังนั้นเราจะต้องย้ายรายชื่อลงมาอยู่ด้านซ้ายและย้ายข้อความที่เหลือทั้งหมดมาทางด้านขวาเล็กน้อยเพื่อให้มีพื้นที่ CSS propertyที่เราใช้คือ 'padding-left' (สำหรับย้ายข้อความในส่วน body) และ 'position' 'left' และ 'top' (เพื่อย้ายเมนู)
ยังมีวิธีอื่นๆที่สามารถทำได้หากคุณดูในส่วน “column” หรือ “layout” ในหน้า Learning CSS (เรียนรู้ CSS)คุณจะเจอเทมเพลตที่ใช้ได้เลยหลายอันแต่ อันนี้ก็ใช้ได้เหมาะสมกับจุดประสงค์ของเรา
ในหน้าโปรแกรมแก้ไข ให้เพิ่มบรรทัดต่อไปนี้เขาไปในไฟล์ HTML
<!DOCTYPE html PUBLIC "-//W3C//DTD HTML 4.01//EN">
<html>
<head>
  <title>My first styled page</title>
  <style type="text/css">
  body {
    padding-left: 11em;
    font-family: Georgia, "Times New Roman",
          Times, serif;
    color: purple;
    background-color: #d8da3d }
  ul.navbar {
    position: absolute;
    top: 2em;
    left: 1em;
    width: 9em }
  h1 {
    font-family: Helvetica, Geneva, Arial,
          SunSans-Regular, sans-serif }
  </style>
</head>

<body>
[etc.]
หากคุณเซฟไฟล์อีกครั้งและ reload ในบราวเซอร์ทีนี้คุณก็จะได้รายชื่อลิงค์ที่อยู่ทางด้านซ้ายของข้อความหลัก ซึ่งตอนนี้หน้าเวบนี้ก็ดูน่าสนใจขึ้น
ภาพจากหน้าจอที่มีเมนูด้านซ้าย
ข้อความหลักย้ายไปอยู่ที่ด้านขวาและตอนนี้รายชื่อลิงค์ย้ายไปอยู่ที่ด้านซ้ายแล้วแทนที่จะอยู่ด้านบน
เดือน! ล่วงหน้า: การใส่ 'position: absolute' เป็นการบอกว่า element ul ถูกวางไว้แยกออกจากข้อความที่มาก่อนหรือหลังภายในเอกสารและการใช้ 'left' และ 'top' ก็เพื่อแสดงให้รู้ว่าอยู่ในตำแหน่งใด ในกรณีนี้ คือ 2em จากด้านบนและ 1em จากด้านซ้ายของหน้าต่าง
'2em' หมายถึง 2 เท่าของขนาดฟอนท์ปัจจุบันเช่น ถ้าเมนูใช้ฟอนท์ขนาด 12 point ดังนั้น '2em' จะเท่ากับ 24 point 'em' เป็นหน่วยการวัดประเภทหนึ่งที่มีประโยชน์ในการใช้ CSS เนื่องจากสามารถนำมาใช้กับฟอนท์ที่ผู่อ่านมักจะใช้ได้โดยอัตโนมัติ บราวเซอร์ส่วนใหญ่ มีเมนูที่ไว้เพิ่มหรือลดขนาดของฟอนท์คุณจะเห็นได้ว่าขนาดของเมนูจะเพิ่มเมื่อขนาดของฟอนท์เพิ่มซึ่งจะไม่เป็นไปตามนั้นหากในกรณี ที่เราใช้หน่วยเป็นพิกเซลแทน

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น


พื้นที่โฆษณา

Free Hosting

พื้นที่โฆษณา

Free Hosting
 

Copyright © สอนเขียนโปรแกรม html php css Java SQL jQuery XML Ajax Design by ScriptMasterWebDesign | Theme by ScriptMasterWebDesign | Powered by HosTing